
หนังสือ ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย 1-7 (7เล่มจบ) ผู้เขียน: กวนซินเจ๋อล่วน สำนักพิมพ์: แจ่มใส นิยายแปลจีน พร้อมส่ง ราคา 400 บาท
ราคา
400
บาท
ราคา
400
บาท
ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย 1
ตลอดสิบปีที่ผ่านมา ‘เฉิงเซ่าซาง’ ไม่เคยได้พบหน้าบุพการีที่ทำสงครามอยู่ต่างเมืองเลย
นางถูกอาสะใภ้รองผู้ร้ายกาจตั้งใจเลี้ยงดูมาให้เสียคน กลายเป็นคุณหนูเอาแต่ใจ
สมองกลวงโบ๋ เกียจคร้านไม่ชอบอ่านตำรา ความสามารถอื่นใดล้วนไม่มี
ทว่าในที่สุดเฉิงเซ่าซางก็ได้พบหน้าบิดามารดาที่กลับมาอยู่บ้านสักที
ทางบิดานั้นแทบจะปรี่มาหานางอย่างตื่นเต้น ไม่ว่ามีของดีอะไรก็ล้วนมอบให้
ตรงกันข้ามกับมารดา อีกฝ่ายมีเพียงสายตาจ้องจับผิด ไม่ว่านางพูดหรือทำอะไรก็ไม่เคยได้ดั่งใจ
ไม่เรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้เหมือนญาติผู้พี่ ‘เฉิงยาง’ ที่มารดาตามใจ ทั้งเอ่ยชมไม่ขาดปาก
หากว่าร่างนี้เป็นเฉิงเซ่าซาง ‘คนเดิม’ ก็คงร่ำไห้ตัดพ้อว่ามารดาไม่รักไปแล้ว
แต่กับเฉิงเซ่าซาง ‘คนใหม่’ นี้ นางก็แค่ใช้ชีวิตตามใจตนต่อไป อยากลงโทษอย่างไรก็ลงโทษอย่างนั้น
จะให้เปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อแลกกับความรักของมารดาหรือ… ไม่ใช่กับนางหรอก!
ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย 2
เพราะวีรกรรมทำสะพานที่จวนสกุลวั่นถล่ม
เฉิงเซ่าซางจึงถูกลงโทษโบย บิดาถึงขั้นส่งนางออกเดินทางไปต่างเมืองพร้อมอาสาม
เมื่อแรกการเดินทางเต็มไปด้วยอิสระ ได้ท่องเที่ยวชมธรรมชาติ เรียนเป่าขลุ่ยตี๋
ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกับมารดาทุกวี่วันอีก
แต่ยามที่ใกล้ถึงจุดหมายปลายทางกลับเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
คณะเดินทางของนางที่แยกกับอาสามพบเข้ากับโจรกบฏที่ออกอาละวาดจี้ปล้น
นางจำต้องแบกภาระเป็นผู้นำขบวนเดินทาง
พาทุกคนไปหลบพักยังบ้านนายพรานกลางป่า ยันสู้กับโจรอย่างไม่กลัวเกรง
ในช่วงที่เรี่ยวแรงใจของทุกคนกำลังเหนื่อยอ่อน ทัพเกราะดำก็ได้ย่างกรายมาถึง
ครั้นนางเห็นผู้เป็นแม่ทัพเต็มสองตา ในใจก็ได้แต่โอดครวญว่า… เปลี่ยนเป็นกองหนุนกองอื่นได้หรือไม่!
ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย 3
‘เฉิงเซ่าซาง’ มีมุมมองเรื่องการแต่งงานอย่างเรียบง่าย
ในเมื่อมีบุรุษที่แสนดีอย่าง ‘โหลวเหยา’ มาสู่ขอ นางก็แค่ตอบตกลง
ไม่เคยวาดหวังถึงความรักกับชนชั้นสูง
ยิ่งกับบุรุษผู้หล่อเหลาและโด่งดังอย่าง ‘หลิงปู้อี๋’ ที่สนใจนางด้วยแล้ว
เขายากคาดเดาและอยู่สูงเกินนางเอื้อมถึงนัก!
ทว่าความฝันของเฉิงเซ่าซางที่จะได้ใช้ชีวิตคู่อย่างอิสระกับโหลวเหยามีอันต้องสั่นคลอน
เมื่อ ‘เหอเจาจวิน’ อดีตคู่หมั้นของโหลวเหยาเกิดเรื่องขึ้น
สกุลเหอต่อสู้กับกบฏจนตัวตายทั้งตระกูล
เหอเจาจวินจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของคนสักตระกูล
แล้วผู้ใดเล่าจะดูแลอีกฝ่ายได้ดี หากไม่ใช่อดีตคู่หมั้นแต่เด็กอย่างโหลวเหยา
เฉิงเซ่าซางมีทางเลือกไม่มาก หากไม่แต่งไปพร้อมเหอเจาจวิน ก็ตัดใจถอนหมั้นเสียแต่เนิ่นๆ
นางย่อมนึกไม่ถึงว่าในเวลานี้เอง หลิงปู้อี๋จะออกหน้าประกาศตัวขอรับผิดชอบแต่งกับนางแทน!
ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย 4
เฉิงเซ่าซางเพียงวาดหวังใช้ชีวิตของตนอย่างตามใจใครดีมานางดีตอบ ใครร้ายมานางพร้อมสนองตอบไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะมีวันที่นางต้องไปพึ่งพาหรือร้องขอความเมตตาใครการต้องมีคนมาเอาใจใส่ทะนุถนอม คอยห่วงหาอยู่ทุกเมื่ออย่างที่หลิงปู้อี๋ทำให้นั้น นางยิ่งไม่คุ้นชินทั้งไม่เคยนึกฝันว่านิสัยการเก็บปัญหาไปจัดการเงียบๆ คนเดียวของนางจะก่อเรื่องขึ้นในสักวันหนึ่งเมื่อหลิงปู้อี๋ล้างแค้นแทนนางด้วยการไปเล่นงานคนถึงแปดตระกูล ทำให้ถูกโทษโบยจากฮ่องเต้!กระทั่งเห็นเขาถูกโบยทีละไม้ นางผู้ไม่เคยรู้ใจตนเองก็เพิ่งตระหนักรู้ว่าบุรุษผู้นี้เป็นของนาง ศีรษะ ลำตัว ตลอดจนแขนขาทั้งสี่ ล้วนเป็นของนางทั้งสิ้น ตัวนางเองยังไม่อาจหักใจทุบตี หักใจดุว่าเขาเลย ผู้อื่นถือสิทธิ์อันใดให้เขามาทนทุกข์เยี่ยงนี้!
ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย 5
ยิ่งเวลาผ่านไปเฉิงเซ่าซางก็กลายเป็นผู้โดดเด่นที่ฮ่องเต้ให้ความสำคัญหากรับมือขุนนางไม่ถูก ขอเพียงเรียกนางมาปะทะฝีปาก เป็นอันรบร้อยครั้งไม่เคยแพ้หากมีคดีที่ต้องคลี่คลาย เฉิงเซ่าซางก็พร้อมเป็นผู้แทนฮองเฮาออกไปสืบคดียามนี้เรียกได้ว่าสกุลเฉิงมีแต่เทียบมาเยือนมิได้ขาด ใครๆ ก็ต่างหวังพึ่งบารมีนางทว่าไฉนไม่มีใครกล้าไหว้วานหลิงปู้อี๋ที่มีอำนาจมากเล่า หรือเพราะผู้คนเลือกบีบลูกพลับนิ่มเช่นนางสะดวกกว่า ซึ่งว่าที่สามีของนางผู้นี้นับวันยิ่งทำตัวหน้าหนาชอบฟังคำหวานเลี่ยนจากปากนางอยู่เสมอพูดถึงบุรุษอื่นมากไปก็ไม่ได้ เป็นได้ปั้นปึ่งทำหน้าบูดหน้าบึ้ง กลิ่นน้ำส้มโชยออกมาเวลาเขาน้อยอกน้อยใจคิดว่านางไม่รักเขามากพอ นางไม่วายต้องกล่อมเขาให้เชื่องอยู่ร่ำไป“หากวางท่านกับอาเหยาคู่กันบนโต๊ะสำรับ ต่อให้อาเหยาถูกปิ้งย่างจนมันเยิ้มทั่วร่างเลิศรสหาใดเปรียบส่วนท่านยังคงเป็นเนื้อดิบชิ้นหนึ่ง ปากของข้าก็จะมุ่งไปหาท่านแต่ผู้เดียว!”.
ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย 6
งานมงคลที่หลิงปู้อี๋กับเฉิงเซ่าซางเฝ้ารอจวนจะมาถึง ชุดเจ้าสาวปักเรียบร้อย ของต่างๆ จัดเตรียมไว้พร้อมสรรพกลิ่นอายของงานมงคลครอบคลุมไปทั่ว ใครๆ ก็พร้อมอวยพรให้พวกเขาทว่าใครเล่าจะนึก เพียงสามวันก่อนงานแต่งว่าที่เจ้าบ่าวอย่างหลิงปู้อี๋กลับจับดาบบุกตะลุยเข้าไปในจวนสกุลหลิง เจอคนไหนฟันคนนั้น ตอนที่เฉิงเซ่าซางไปพบ คนผู้นั้นกำลังไล่ต้อนหลิงอี้ผู้เป็นบิดาของตนเอง!ในที่สุดนางก็คล้ายนึกเรื่องบางอย่างออก สาเหตุที่ทำให้เขาหันหลังให้งานมงคลอย่างไม่นึกเสียดายจะยังเป็นใครไปได้เล่า หากมิใช่ผู้ที่เคยผ่านความแค้นของการถูกฆ่าล้างตระกูลมา“ท่านเป็นใครกันแน่ หลิงปู้อี๋…หรือว่าฮั่วอู๋ซาง?”
ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย 7 (เล่มจบ)
ห้าปีก่อน ฮั่วปู้อี๋เคยเตรียมใจไว้แล้ว นับแต่ถอนหมั้นกับเฉิงเซ่าซางเขาจะไม่แต่งงานกับใครอีก และจะยินดีมองนางแต่งให้กับผู้อื่น มีชีวิตอย่างอิสระตามแต่ใจนางทว่าเพียงแรกพบในรอบห้าปี เพียงเห็นดวงตาเปี่ยมชีวิตชีวาของนาง ความคิดเขาก็พลิกตลบหยวนเซิ่นคู่หมั้นของนางเอาอะไรมาสู้เขาได้คนผู้นั้นยังมีวงศ์ตระกูล ตำแหน่งขุนนางให้ต้องพะวงส่วนเขาชีวิตนี้มีแค่นาง…เบื้องหลังพร้อมเป็นเงาคอยปกป้องนางให้อยู่รอดปลอดภัยเบื้องหน้าก็พร้อมมอบโลกที่นางปรารถนาให้ใต้หล้านี้… ไม่มีใครรู้จักนางได้ดีไปกว่าเขา กระทั่งตัวนางยังรู้จักตนเองไม่เท่าที่เขารู้จักนางเลยใต้หล้านี้… ไม่มีใครร
Be the first to comment